วันนี้มีลูกน้องขอลาหยุด 1 วัน เนื่องจากลูกสาววัย 9 ขวบไม่สบาย ทำให้ดิฉันอดนึกถึงลูกสาวเธอไม่ได้...เด็กผู้หญิง...เด็กอายุ 9 ขวบสูง 140 เซนติเมตร(กว่าๆ) มีน้ำหนักถึง 70 กิโลกรัม ยังจำได้ว่าเมื่อปีก่อนยัง 64 กิโลกรัม ...ว่าจะลด ..จะลด แต่ก็เพิ่มขึ้นทุกที เห็นแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้....

มานั่งวิเคราะห์ดูว่าทำไมถึงได้น้ำหนักเพิ่มขึ้นขนาดนี้...คุณพ่อเป็นคนร่างใหญ่...ส่วนคุณแม่ก็สาวสวยหุ่นดี ท้วมขึ้นบ้างเป็นระยะถ้าช่วงไหนทานเก่ง..ฉนั้น..นอกจากพันธุกรรมกรรมก็ไม่น่าจะขนาดนี้ ...แต่มานั่งนึกถึง พฤติกรรมการทานแล้ว...น่าจะมีส่วนมากที่สุดค่ะ ...เคยเห็นคุณแม่พามาที่ทำงาน..น้องหนูจะมีสัมภาระ คือกระเป๋าเป้ 1 ใบ ข้างในจะมีของเล่นเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่น่าตกใจคือ ที่เต็มกระเป๋าคือ ขนมกรุบกรอบขบเคี้ยว ถุงใหญ่เต็มกระเป๋า ตลอดเวลาที่นั่งหน้า Computer ก็จะหยิบทานอย่างเอร็ด อร่อย เคยถามว่า ทำไมให้ทานขนาดนี้ คุณแม่บอกว่าถ้าไม่ให้ทาน ลูกก็จะหิว สงสารลูก.. เพื่อนก็ชอบล้อ...เดินเหินไม่คล่องตัว..ใส่เสื้อผ้าก็มีปัญหา..ไหนจะปัญหาสุขภาพที่ตามมา...เคยให้ลดน้ำหนัก โดยงดขนมและลดปริมาณข้าว แต่พอถึงเวลาลูกร้องหิว ทนไม่ไหว ก็ต้องให้ทาน ต้องซื้อให้.. นี่เอง..เป็นเหตุให้น้องหนูน้ำหนักมากเกินวัย และเกินตัว เพราะพฤติกรรมการทานที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กๆ ที่ทานตลอดทุกครั้งที่หิว ทานไม่เป็นเวลา และข้อสำคัญทานขนมหวานและโดยเฉพาะประเภทแป้งและคาร์โบไฮเดรต...ตัวสะสมดีนักแล...

นึกถึงหัวอกท่านที่เป็นคุณพ่อ คุณแม่ ที่รักลูก เพราะเด็กยังไม่รู้เรื่องอะไร...หากเราตามใจเมื่อลูกร้องขอทุกครั้งเพราะสงสารลูก..ผลที่ตามมาลูกจะมีพฤติกรรมการทานที่ผิด ผลเสียก็จะเกิดที่ตัวเด็กเอง...ถ้ารักลูกให้ถูกทาง ควรสร้างพฤติกรรมหรือวินัย ในการรับประทานที่เหมาะสมตั้งแต่ลูกยังเล็ก เมื่อหนูโตขึ้นจะได้ไม่ถามว่า หนูอ้วนเพราะใคร? เพราะพ่อ แม่ รักหนู(ผิดวิธี)